ผู้เขียน หัวข้อ: กระชายพลัส: การเลือกวิตามิน อาหารเสริม ที่เหมาะกับตัวเอง และวิธีกินยาที่ถูกต้อง  (อ่าน 100 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
  • ผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม โพสฟรี
    • ดูรายละเอียด
ปัจจุบันคนจำนวนมากหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพ อยากให้ร่างกายแข็งแรง ดูดี ไม่แก่ โดยทาน วิตามิน และ อาหารเสริม ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดอย่างมากมาย เพื่อให้ร่างการกายแข็งแรง แต่อาหารเสริมมีให้เลือกซื้อหามากมาย แต่ละชนิดก็มีสูตร ส่วนผสม และราคาที่แตกต่างกันไป ซึ่งคนส่วนมากไม่รู้ว่า วิตามิน และ อาหารเสริม ที่ซื้อนั้นให้คุณค่าทางอาหารอย่างที่เราต้องการหรือไม่ ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าจะเลือกกิน วิตามิน และ อาหารเสริม ประเภทไหน หรือต้องกินเมื่อไร หรือมีความจำเป็นต้องกินจริงหรือไม่ ชนิดไหนที่เหมาะกับเราล่ะ แล้วคุณภาพจะมั่นใจได้อย่างไร ทำอย่างไรจะไม่ถูกหลอกจากอาหารเสริมที่ขายกันอยู่อยางมากมายที่อวดอ้างสรรพคุณเหล่านั้น มาหาคำตอบกัน?

ถ้าเราสามารถกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมได้ เราก็ไม่ต้องพึ่ง วิตามินและอาหารเสริมแต่อย่างใด และยังปลอดภัยจากการได้รับ วิตามินและเกลือแร่บางชนิดที่มากเกินไป เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งหากร่างกายได้รับมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายได้


ทำไมต้องกินวิตามินรวม?

เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เราได้รับสารอาหารครบถ้วนที่จำเป็นกับร่างกาย ?   นักโภชนาการกล่าวว่า การกินวิตามินรวมเป็นเหมือนหลักประกันและให้ความมั่นใจว่า คุณจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันครบถ้วน แต่คุณควรตรวจสอบดูว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีส่วนประกอบของสารอาหารที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน (RDA) ครบถ้วน100%  เช่นวิตามินเอ ซี อี แคลเซียม กรดโฟลิก แมกนีเซียม โพแทสเซียม เซเลเนียม สังกะสีและอื่นๆ ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเรา

อย่างไรก็ตาม ระดับ RDA ของสารอาหารบางชนิด อาจน้อยเกินไปสำหรับคนบางคน โดยเฉพาะหากคุณมีปัญหาสุขภาพบางประการ คุณอาจต้องการวิตามินหรือแร่ธาตุที่มากกว่าปกติ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงสูงสุด ไม่ใช่แค่ชดเชยสารอาหารที่ขาดไป

นักโภชนาการ แนะนำให้เลือกชนิดของวิตามินที่เหมาะกับความจำเป็นของแต่ละคน แทนที่จะกินแบบเหวี่ยงแห นั่นคือเลือกทานวิตามินรวมเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และเลือกทานวิตามินและอาหารเสริมอื่นเพิ่มตามความจำเป็น ของแต่ละคน แต่ละวัย และกำลังทรัพย์ เพียงแค่นี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้ออาหารเสริมอื่นๆที่อวดอ้างสรรพคุณจนเกินความจริงและมีราคาแพงเกินไป


เลือกซื้อวิตามินให้ถูกหลัก

ถ้าคุณคิดจะทานวิตามินรวม ให้จำไว้ว่าวิตามินและอาหารเสริม แต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเลือกยี่ห้อที่มีวิตามินและสารอาหารอย่างครบถ้วน ดูปริมาณวิตามิน วันหมดอายุ และที่สำคัญต้องมี อย. ของไทยรับรองเท่านั้น จึงจะมีความปลอดภัย

การทานวิตามินและอาหารเสริมเหมือนการลงทุนกับสุขภาพ

ระวังการซื้อวิตามินอาหารเสริมเพราะมีราคาถูก หรือ ประเภท ซื้อ 1 แถม 1 นักโภชนาการส่วนใหญ่กลับให้ความสำคัญกับคุณภาพของวิตามินอาหารเสริม และประโยชน์ที่ได้รับ มากกว่าที่มีPromotion พยายามเลือกอาหารเสริมสูตร time-release formulations ซึ่งจะออกฤทธิ์ ในร่างกายได้นานกว่า 8-10 ชั่วโมง และได้ประโยชน์โดยเฉพาะเมื่ออาหารเสริมนั้นอยู่ในรูปวิตามินที่ละลายน้ำได้ เช่น วิตามินซี ร่างกายจะขับวิตามินส่วนเกินเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นจึงควรกินอาหารเสริมที่ออกฤทธิ์นานตลอดวัน

อาหารเสริมที่จำหน่ายมีอยู่ในหลายรูปแบบทั้งชนิดเม็ด แคปซูล หรือของเหลว ควรเลือกชนิดที่เหมาะกับคุณมากที่สุด แม้ผลการวิจัยจะระบุว่าวิตามินในรูปของเหลวออกฤทธิ์เร็วกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องผ่านการย่อยในกระเพาะอาหาร และซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้รวดเร็วกว่า แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมชนิดเม็ดที่ละลายในน้ำแล้วเกิดฟอง เพราะว่าอาหารเสริมดังกล่าวมักแต่งกลิ่นและใช้สีผสมอาหาร มีส่วนผสมของน้ำตาลและสารปรุงแต่งอื่น ๆ ซึ่งควรหลีกเลี่ยง


การรับประทานวิตามินอย่างถูกวิธี

เมื่อคุณซื้ออาหารเสริมคุณภาพดีมาแล้ว ตอนนี้ต้องแน่ใจว่าคุณรับประทานอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากสารอาหารที่อยู่ในอาหารเสริมดังกล่าว

เวลาในการรับประทานที่เหมาะสมและข้อควรรู้

อาหารเสริมประเภท time-release formulations และวิตามินรวมควรรับประทานตอนเช้าจะดีที่สุด แต่ก็มีอาหารเสริมบางชนิดจำเป็นต้องทานวันละ 2-3 ครั้ง หากคุณรับประทานวิตามินรวมเป็นประจำในตอนเช้า ต้องอย่าลืมทิ้งช่วงระหว่างดื่มกาแฟ หรือชากับอาหารเสริมให้ห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เหตุที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะคาเฟอีนจะขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารบางชนิด

ช่วงเวลาดีที่สุดในการทานอาหารเสริมคือทานพร้อมอาหาร เนื่องจากจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น วิตามินประเภท time-release ต้องทานตอนที่มีอาหารอยู่ในกระเพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเสริมไหลผ่านไปยังลำไส้ ซึ่งไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมบางชนิด เช่น สังกะสีควรรับประทานก่อนอาหาร ดังนั้นก่อนทานควรอ่านฉลากให้แน่ชัด


วิตามินที่เหมาะกับแต่ละคน

       เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรทานวิตามินรวม และเลือกทานวิตามินอาหารเสริมที่จำเป็นสำหรับคุณ โดยคำนึงถึง ปัญหาสุขภาพ อายุ กิจกรรมของคุณเป็นหลัก โดยเฉพาะเมื่อมีอายุ 30 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากขึ้น แนะนำให้อ่านที่ฉลากข้างขวดก่อนทานทุกครั้ง


ข้อแนะนำในการทานวิตามินเกลือแร่และอาหารเสริม


แคลเซียม

   หากคุณไม่ชอบทานผลิตภัณฑ์นม หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน อาหารเสริมจำพวกแคลเซียมจะช่วยให้กระดูกของคุณแข็งแรงขึ้น

        -สำหรับผู้หญิงควรได้รับวันละ 800 มิลลิกรัม

       - ควรทานแคลเซียมร่วมกับอาหารในตอนค่ำจะดีที่สุด หรือเลือกทานร่วมกับแมกนีเซียมก็ได้ผลดีเช่นกัน เนื่องจากสารอาหารสองชนิดนี้ทำงานร่วมกันได้ดี


วิตามินซี

หากคุณสูบบุหรี่ ทานจั๊งค์ฟู้ดเป็นประจำ หรือมีสุขภาพไม่ดีไข้เจ็บบ่อย วิตามินซี จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานโรคได้

       -ปริมาณแนะนำให้รับประทานคือ วันละ 60 มิลลิกรัม แต่ในช่วงที่เจ็บป่วยสามารถทานได้ถึงวันละ 1,000 มิลลิกรัม นาน 2-3 วัน หลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณมาก ๆ หากอยู่ในช่วงทานยาคุมกำเนิดหรือมีอาการท้องเสีย

      -ควรทานวิตามินซีร่วมกับอาหารในตอนเช้า หรือถ้าต้องทานมากกว่าหนึ่งโดส ให้แบ่งทานวันละมากกว่าหนึ่งครั้ง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมวิตามินซี


วิตามินอี

ถ้ามีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต ระดับคอเลสเตอรอลสูง หรือผิวแห้ง แนะนำให้รับประทานวิตามินอี

     -ผู้หญิงจำเป็นต้องได้รับวิตามินอี วันละ 10 มิลลิกรัม แต่ไม่ควรได้รับเกินกว่าวันละ 450 มิลลิกรัม หากคุณอยู่ในระหว่างทานยารักษาโรคหัวใจ (เช่น ยา anti-coagulant ซึ่งเป็นยาในกลุ่มวาร์ฟาริน) ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

    - วิตามินอีสูตรธรรมชาติมีประสิทธิภาพดีกว่าสูตรสังเคราะห์ ถึง 2 เท่า

     -ควรทานร่วมกับอาหารในตอนเช้า


เหล็ก

ถ้าคุณมีประจำเดือนมามาก (มักพบในช่วงก่อนเข้าวัยทอง) หรือทานมังสวิรัติ หรือรู้สึกอ่อนเพลียเป็นประจำ อาจเป็นไปได้ว่าคุณขาดธาตุเหล็ก

    - ผู้หญิงจำเป็นต้องได้รับธาตุเหล็ก วันละ 14 มิลลิกรัม และไม่ควรทานเกินวันละ 17 มิลลิกรัม อย่าทานอาหารเสริมจำพวกธาตุเหล็กนานติดต่อกันเกิน 6 เดือน โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพราะหากทานมากเกินไปอาจก่อให้เกิดโรคหัวใจ

    - ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กในรูปของเหลวได้ดีกว่า ในรูปยาเม็ดชนิดแตกตัวในลำไส้ (iron fumarate) หรือวิตามินซีที่ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก (iron sulphate) ร่างกายดูดซึมได้ช้า ขณะที่เหล็กซัลเฟต (iron sulphate) ร่างกายดูดซึมได้เร็ว แต่มักทำให้ท้องผูกเรื้อรัง

  - เลือกชนิดที่มีส่วนผสมของวิตามินซีหรือทานคู่กับน้ำส้ม 1 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น


แมกนีเซียม

     หากมีอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือนหรืออาการวัยทอง เช่น ร้อนวูบวาบตามร่างกาย หรือดื่มเหล้าเป็นประจำ อาจมีผลให้ระดับแมกนีเซียมในร่างกายต่ำ

    -โดยผู้หญิงจำเป็นต้องได้รับวันละ 300 มิลลิกรัม แต่ไม่เกิน 400 มิลลิกรัม

     -แนะนำให้ทานร่วมกับอาหารในตอนเช้า


กระชายพลัส: การเลือกวิตามิน อาหารเสริม ที่เหมาะกับตัวเอง และวิธีกินยาที่ถูกต้อง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/