หมอออนไลน์: โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory bowel disease/IBD)โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease / IBD) เป็นกลุ่มของโรคเรื้อรังที่เกิดจากการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร โดยมีสาเหตุจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่โจมตีเซลล์ในทางเดินอาหารของตัวเอง ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเยื่อบุลำไส้และชั้นต่างๆ ของผนังลำไส้
IBD ไม่ใช่โรคเดียว แต่เป็นคำรวมๆ ที่ใช้เรียกโรคที่พบบ่อย 2 ชนิดหลักๆ คือ:
โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังชนิดมีแผล (Ulcerative Colitis - UC): เป็นการอักเสบที่จำกัดอยู่เฉพาะเยื่อบุผิวชั้นในสุด (Mucosa) ของลำไส้ใหญ่และทวารหนักเท่านั้น และการอักเสบมักจะเริ่มต้นจากทวารหนักแล้วลุกลามต่อเนื่องขึ้นไปด้านบน
โรคโครห์น (Crohn's Disease - CD): เป็นการอักเสบที่สามารถเกิดได้กับทุกส่วนของระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่ปากไปจนถึงทวารหนัก และเป็นการอักเสบที่ลึกถึงชั้นใต้เยื่อบุผิว หรืออาจทะลุไปถึงชั้นกล้ามเนื้อของลำไส้ได้ และการอักเสบมักจะเป็นหย่อมๆ ไม่ต่อเนื่อง
สาเหตุของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD)
สาเหตุที่แท้จริงของ IBD ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่:
พันธุกรรม: ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็น IBD มีความเสี่ยงสูงขึ้น
ระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ: ร่างกายเข้าใจผิดว่าแบคทีเรียหรือไวรัสบางชนิดในลำไส้เป็นสิ่งแปลกปลอม จึงสร้างการอักเสบขึ้นมาต่อสู้ แต่การอักเสบนั้นกลับไม่หยุดลง ทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อลำไส้ของตัวเอง
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม:
การสูบบุหรี่: เพิ่มความเสี่ยงของโรคโครห์นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ลดความเสี่ยงของ Ulcerative Colitis (แต่ก็ไม่แนะนำให้สูบบุหรี่)
อาหาร: อาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอาหารชนิดใดเป็นสาเหตุโดยตรง
สุขอนามัย: ทฤษฎีสุขอนามัย (Hygiene Hypothesis) ชี้ว่าการที่เด็กเติบโตในสภาพแวดล้อมที่สะอาดเกินไป อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม
การใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยๆ: อาจส่งผลต่อสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้
เชื้อแบคทีเรียในลำไส้ (Gut Microbiota): ความไม่สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้อาจมีบทบาท
อาการของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD)
อาการของ IBD แตกต่างกันไปตามชนิดของโรคและตำแหน่งของการอักเสบ แต่อาการทั่วไปที่พบบ่อย ได้แก่:
ปวดท้อง: มักเป็นตะคริวหรือปวดท้องบีบ
ท้องเสียเรื้อรัง: อาจมีเลือดหรือมูกปน
ถ่ายอุจจาระมีมูกหรือเลือด: พบได้บ่อยใน Ulcerative Colitis
น้ำหนักลด: เนื่องจากลำไส้อักเสบทำให้การดูดซึมสารอาหารลดลง หรือเบื่ออาหาร
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
ไข้
คลื่นไส้ อาเจียน (พบบ่อยในโรคโครห์น)
ภาวะโลหิตจาง (จากการเสียเลือดหรือการดูดซึมธาตุเหล็กผิดปกติ)
อาการนอกลำไส้: ผู้ป่วย IBD ประมาณ 25% อาจมีอาการนอกระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย ได้แก่:
ปวดข้อ ข้ออักเสบ
ผิวหนังอักเสบ มีแผล (เช่น Erythema Nodosum, Pyoderma Gangrenosum)
ปัญหาทางตา (เช่น Uveitis, Episcleritis)
ท่อน้ำดีอักเสบแข็งปฐมภูมิ (Primary Sclerosing Cholangitis - PSC) ซึ่งพบร่วมกับ Ulcerative Colitis ได้บ่อย
การวินิจฉัยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD)
การวินิจฉัย IBD ต้องอาศัยข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน:
ประวัติและตรวจร่างกาย: ซักประวัติอาการละเอียด
การตรวจเลือด: ตรวจหาการอักเสบ (เช่น ESR, CRP), ภาวะโลหิตจาง, หรือภาวะขาดสารอาหาร
การตรวจอุจจาระ: เพื่อแยกแยะสาเหตุอื่นๆ เช่น การติดเชื้อ, ตรวจหาโปรตีนที่บ่งชี้การอักเสบในลำไส้ (เช่น Fecal Calprotectin)
การส่องกล้องตรวจลำไส้ (Endoscopy/Colonoscopy): เป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการวินิจฉัยและแยกชนิดของ IBD แพทย์จะส่องกล้องเข้าไปดูสภาพเยื่อบุลำไส้โดยตรง และสามารถตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy) ไปตรวจทางพยาธิวิทยา
การตรวจทางรังสีวิทยา: เช่น CT scan, MRI (โดยเฉพาะ MR Enterography สำหรับโรคโครห์น) เพื่อดูการอักเสบในลำไส้เล็ก หรือภาวะแทรกซ้อน
การรักษาโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD)
IBD เป็นโรคเรื้อรังที่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการ ลดการอักเสบ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ การรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การลดการอักเสบ การบรรเทาอาการ และการทำให้โรคสงบ (Remission) และคงภาวะสงบไว้นานที่สุด:
ยาต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory Drugs):
Aminosalicylates (5-ASA): เช่น Mesalamine ใช้สำหรับ Ulcerative Colitis ชนิดไม่รุนแรง หรือรุนแรงปานกลาง เพื่อควบคุมการอักเสบ
Corticosteroids (สเตียรอยด์): เช่น Prednisone ใช้เพื่อควบคุมการอักเสบที่รุนแรงเฉียบพลันในระยะเวลาสั้นๆ
ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants):
เช่น Azathioprine, Mercaptopurine, Methotrexate ใช้เพื่อลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ เพื่อให้โรคสงบและลดการใช้สเตียรอยด์
ยาชีวภาพ (Biologic Therapies):
เป็นยาที่ออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงกับสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย มักใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาอื่นๆ เช่น Infliximab, Adalimumab, Vedolizumab
การปรับเปลี่ยนอาหารและการเสริมสารอาหาร:
ไม่มีการจำกัดอาหารตายตัว แต่แพทย์อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ หรืออาหารที่ย่อยยากในช่วงที่มีอาการกำเริบ
อาจจำเป็นต้องเสริมวิตามินและแร่ธาตุ เช่น เหล็ก, วิตามิน B12, วิตามิน D, แคลเซียม เนื่องจากภาวะดูดซึมผิดปกติ
การผ่าตัด (Surgery):
อาจจำเป็นในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ลำไส้อุดตัน ลำไส้ทะลุ มีฝี หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
ใน Ulcerative Colitis อาจมีการผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ทั้งหมดออก (Colectomy) ซึ่งสามารถรักษาโรคให้หายขาดได้
ในโรคโครห์น การผ่าตัดจะทำเพื่อแก้ไขภาวะแทรกซ้อนเฉพาะจุด แต่โรคยังสามารถกลับมาเป็นใหม่ในส่วนอื่นของลำไส้ได้
IBD เป็นโรคที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง และผู้ป่วยต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการรักษา เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขมากที่สุดครับ