อีดำอีแดง (ไข้อีดำอีแดง ก็เรียก) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ทำให้มีผื่นแดงขึ้นตามตัวร่วมกับทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในเด็กอายุ 5 -15 ปี ในปัจจุบันพบโรคนี้น้อยลง เนื่องจากผู้ป่วยมักได้รับยาปฏิชีวนะตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ (group A beta-hemolytic Streptococcus) สายพันธุ์ที่สร้างสารพิษ (erythrogenic exotoxin) ออกมาทำให้เกิดผื่นแดงตามผิวหนัง เชื้อมีอยู่ในน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อโดยการหายใจสูดเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอหรือจามรด หรือโดยการสัมผัสมือผู้ป่วย สิ่งของ หรือสิ่งแวดล้อมที่แปดเปื้อนเชื้อ
ระยะฟักตัว 2-7 วัน
โรคนี้มักเกิดร่วมกับทอนซิลอักเสบ แต่บางครั้งอาจเกิดร่วมกับการติดเชื้อที่ตำแหน่งอื่น เช่น ผิวหนัง แผลผ่าตัด มดลูก เป็นต้น
อาการ
แรกเริ่มจะมีไข้สูง หนาวสั่น เจ็บคอมาก ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนร่วมด้วย
1-2 วันหลังมีไข้จะมีผื่นแดงขึ้นที่คอ หน้าอก และรักแร้ แล้วกระจายไปตามลำตัวและแขนขาภายใน 24 ชั่วโมง ผื่นมีลักษณะคล้ายกระดาษทราย อาจมีอาการคัน ต่อมาผื่นจะปรากฏเด่นชัด (เข้มข้น) ในบริเวณร่องหรือรอยพับของผิวหนัง (โดยเฉพาะที่คอ รักแร้ ข้อพับแขน ขาหนีบ ข้อพับขา) แล้วต่อมาในบริเวณเหล่านี้จะปรากฏเป็นจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง ซึ่งเรียงเป็นเส้น (เนื่องจากการแตกของหลอดเลือดฝอย) เรียกว่า “เส้นพาสเตีย (Pastia’s lines)”
ผื่นจะเริ่มจางหายหลังขึ้นได้ 3-4 วัน หลังจากผื่นจางได้ประมาณ 1 สัปดาห์จะมีอาการลอกของผิวหนัง มักเห็นเด่นชัดที่บริเวณรักแร้ ขาหนีบ ปลายนิ้วมือนิ้วเท้าซึ่งอาจเห็นลอกเป็นแผ่น ส่วนตามลำตัวมักลอกเป็นขุย อาการผิวหนังลอกเป็นลักษณะจำเพาะของโรคนี้ บางรายอาจลอกติดต่อกันนานถึง 6 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
เช่นเดียวกับทอนซิลอักเสบจากบีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ เช่น หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ ฝีทอนซิล ข้ออักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้รูมาติก หน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน เป็นต้น
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก
มักตรวจพบไข้มากกว่า 38.3 องศาเซลเซียส ทอนซิลบวมแดง และมักมีแผ่นหรือจุดหนองขาว ๆ เหลือง ๆ ต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอด้านหน้าหรือใต้ขากรรไกรบวมโตและเจ็บ
หน้าแดง แต่บริเวณรอบปากซีด
ในช่วง 2 วันแรกของไข้ อาจพบลิ้นมีฝ้าขาวปกคลุมและมีตุ่มแดงยื่นขึ้นเป็นตุ่ม ๆ สลับคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี เรียกว่า ลิ้นสตรอว์เบอร์รีขาว (white strawberry tongue)
ในช่วงหลังวันที่ 4 ของไข้ ฝ้าขาวที่ลิ้นจะลอกเป็นสีแดง ทำให้เห็นเป็นลิ้นสตรอว์เบอร์รีแดง (red strawberry tongue)
ตามผิวหนังจะพบผื่นแดงคล้ายกระดาษทราย และพบเส้นแดงคล้ำตามรอยพับ (เช่น ข้อศอก ขาพับเรียกว่า "เส้นพาสเตีย (Pastia’s lines)") ในช่วงประมาณสัปดาห์แรก และในช่วงปลายสัปดาห์ที่ 2 ไปแล้วมีอาการผิวหนังลอก
ข้อมูลสุขภาพ: อีดำอีแดง (Scarlet fever) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/expert-scoops