ผู้เขียน หัวข้อ: ซ่อมบำรุงอาคาร: บ้านน้ำรั่วซึม บ้านชื้น ช่วงหน้าฝน ซ่อมแซมยังไงดี  (อ่าน 108 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 597
  • ผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม โพสฟรี
    • ดูรายละเอียด
ซ่อมบำรุงอาคาร: บ้านน้ำรั่วซึม บ้านชื้น ช่วงหน้าฝน ซ่อมแซมยังไงดี

หน้าฝนมา ปัญหาเรื่องบ้านเกิด...นอกจากเรื่องน้ำรั่วซึม บ้านชื้น มีกลิ่นอับแล้ว ยังมีอีกหลายปัญหาที่ชอบเกิดในหน้าฝน จะมีอะไรอีกบ้าง แก้ไขซ่อมแซมยังไงดี


1. ปัญหาน้ำรั่วซึมที่หลังคา

          ส่วนที่มักเกิดน้ำรั่วซึมจากฝนตกบ่อย ๆ จะเป็นตามรอยต่อที่หลังคา วิธีซ่อมแซม ให้ลองตรวจสอบหลังคาก่อน ว่าหลังคามุงไม่ดี หรือกระเบื้องหลังคาแตกร้าว ถ้าพบว่าหลังคาแตกจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้รื้อแล้วเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาใหม่เลย และอย่ามองข้าม “อุปกรณ์ยึดครอบหลังคา” เพราะสิ่งนี้ช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมได้ ซึ่งคุณสามารถใช้กาวพลังตะปูในการยึดกระเบื้องหลังคา หรือเพื่อซ่อมแซมรอยรั่วซึมของหลังคาได้ เพราะกาวพลังตะปูมีคุณสมบัติในการยึดเกาะแน่น ใช้ยึดติดวัสดุต่าง ๆ แทนการตอกตะปู อีกทั้งยังสามารถอุดรอยรั่ว ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร ใช้งานง่าย แห้งเร็ว ทาสีทับได้


2. ปัญหารอยแตกร้าวที่ผนัง ขอบหน้าต่าง

          ทุกบ้านคงต้องมีปัญหาเรื่องรอยแตกร้าวที่ขอบประตูและหน้าต่าง รามไปถึงผนังบ้าน เมื่อฝนตกน้ำก็จะรั่วซึมเข้ามาในบ้าน ทำให้ข้าวของเสียหายได้ วิธีซ่อมแซม หาซื้อกาวพียู (โพลี ยูรีเทน) มายาแนวยึดขอบประตูหน้าต่าง และยังอุดรอยแตกร้าวของผนังได้อีกด้วย เพราะคุณสมบัติของกาวพียู มีความแข็งแรง ทนทาน แห้งแล้วไม่หดตัว ทาสีทับได้ ทนแสงยูวีได้ระดับหนึ่ง จึงใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร


3. ปัญหารางน้ำฝนและท่อระบายน้ำอุดตัน

          บางบ้านอาจไม่ทันได้ตรวจสอบรางน้ำฝนหรือท่อระบายน้ำ พอเข้าหน้าฝนถึงได้รู้ว่ามีเศษกิ่งไม้ใบไม้อุดตันอยู่ ฉะนั้น ในหน้าฝนนี้อย่าลืมตรวจสอบรางน้ำฝนและท่อระบายน้ำอยู่เสมอ เพราะถ้าน้ำอุดตันจนเอ่อล้น น้ำอาจไหลย้อนเข้าภายในบ้านได้


4. ปัญหาบ้านชื้น มีกลิ่นอับ

          สาเหตุหลักของบ้านชื้น มีกลิ่นอับ เพราะอากาศในบ้านไม่ถ่ายเท และแสงแดดส่องเข้ามาในบ้านน้อยมาก ทำให้ภายในบ้านชื้น อาจมีเชื้อราสะสมอยู่ตามที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น พรม ผ้าม่าน เครื่องนอน ตู้เสื้อผ้า วิธีกำจัดและป้องกัน ในวันที่ฝนไม่ตก และแดดออกดี ๆ รีบเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศได้ถ่ายเทหมุนเวียนเข้ามาในบ้านบ้าง และให้แสงแดดส่องเข้ามาในบ้าน เพื่อไล่ความชื้นออกไป กำจัดต้นตอของกลิ่นเหม็น โดยการหมั่นทำความสะอาดบริเวณที่มีฝุ่นหรือเชื้อราสะสม อย่างตู้ เตียง หรือโซฟา ซักทำความสะอาดเสื้อผ้าเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เช่น เครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว หรือเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว ก็ไม่ควรหมักหมมไว้นานเกินไป สุดท้ายเพื่อดูดกลิ่นและฟอกอากาศ คุณอาจปลูกไม้ประดับ ใช้เครื่องฟอกอากาศ หรือใช้สมุนไพร เครื่องหอม ไปวางไว้บางตำแหน่งในบ้าน


5. ปัญหาตะไคร่น้ำบนพื้นคอนกรีต

          เมื่อฝนตกบ่อย ๆ บริเวณหน้าบ้าน หรือทางเดินอาจเกิดตะไคร่น้ำได้ ซึ่งไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้เลย เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้น หลังฝนตก ควรรีบทำความสะอาด ไม่ควรปล่อยไว้นาน วิธีกำจัด คุณอาจใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำราด แต่ต้องเลือกน้ำยาให้เหมาะกับพื้นผิวที่จะทำความสะอาดด้วย ทิ้งให้น้ำยาทำปฏิกิริยา จากนั้นใช้แปรงขัด หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดก็ได้


6. ปัญหาหญ้าที่ขึ้นรก

          ยิ่งฝนตก ต้นไม้ใบหญ้าในสวนก็ยิ่งเจริญเติบโตเร็ว ควรหมั่นตัดหญ้าในสวน ป้องกันอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษ และหมั่นตัดแต่งต้นไม้ กิ่งไม้ เพราะเมื่อฝนตกหนัก หรือมีพายุ อาจทำให้ต้นไม้หรือกิ่งไม้หักโค่นโดนตัวบ้าน ทำให้เกิดความเสียหายได้


7. ป้องกันน้ำขัง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

          ไข้เลือดออกมักจะมากับหน้าฝน เพราะฝนตก น้ำจะขังตามพื้นหรือตามภาชนะต่าง ๆ หากปล่อยให้น้ำขังอยู่แบบนั้น ยุงจะมาวางไข่ จนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้ ให้ลองเดินสำรวจดูว่ารอบ ๆ บ้านมีภาชนะ เช่น ถัง กะละมัง หรือกระถามต้นไม้เก่า ๆ ที่เราไม่ทันได้สนใจ หรือไม่ทันได้สังเกต มีน้ำขังอยู่หรือเปล่า ถ้ามี ให้รีบจัดการกำจัดน้ำขังพวกนั้นให้เรียบร้อย


8. ป้องกันเฟอร์นิเจอร์เสียหาย

          อย่าลืมเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่นอกบ้าน หน้าฝนแบบนี้ หากปล่อยให้ตากฝนอยู่นอกบ้าน เฟอร์นิเจอร์จะเสียหายเอาได้ ควรเก็บเข้าไปไว้ในบ้านหรือหาพลาสติกไปคลุมไว้ดีกว่าค่ะ