ผู้เขียน หัวข้อ: ที่ปรึกษาโครงการ: เคล็ดลับปรับพื้นที่ในบ้านให้เหมาะกับการใช้ชีวิต  (อ่าน 620 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 565
  • ผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม โพสฟรี
    • ดูรายละเอียด
จากสภาวะสังคมไทยที่กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ การให้ความสำคัญกับการเตรียมพร้อมบ้านให้เหมาะกับการเป็นบ้านผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากผู้สูงอายุมักใช้ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ภายในบ้าน ลองมาดูเคล็ดลับปรับ 4 พื้นที่สำคัญของบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักเกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุมากที่สุด เพื่อเติมเต็มการอยู่อาศัยในบ้านของผู้สูงอายุให้สมบูรณ์ สะดวกและปลอดภัย



บ้านผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

การออกแบบบ้านและปรับบ้านผู้สูงอายุให้เหมาะกับการอยู่อาศัยต้องคำนึงถึง 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่

1. Safety ความปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหกล้ม
2. Ease of use อุปกรณ์ต่าง ๆ ควรใช้งานง่าย สะดวกและออกแรงน้อย
3. Eligible ดีไซน์ให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและข้อจำกัดของแต่ละบุคคล
4. Accessibility การจัดพื้นที่และอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการเคลื่อนตัว หรือก้าวเดิน
5. Stimulation การฟื้นฟูความมีชีวิตชีวาผ่านการจัดสภาพแวดล้อม

นอกจากนี้ยังพบว่าในแต่ละปี 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป มักประสบปัญหาการหกล้ม และแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้นด้วย ซึ่งบริเวณที่เกิดการหกล้มบ่อย ได้แก่ ห้องนอน ห้องน้ำ พื้นที่ขึ้นลงบันได และภูมิทัศน์รอบบ้าน การปรับพื้นที่สำคัญของบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญของบ้านผู้สูงอายุ

4 พื้นที่สำคัญที่ต้องปรับสำหรับบ้านผู้สูงอายุ

1. ห้องนอน
ส่วนที่สำคัญของบ้านผู้สูงอายุอย่างหนึ่งคือ ห้องนอน เนื่องจากผู้สูงอายุใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนี้ โดยห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุควรอยู่ชั้นล่างเพื่อลดการขึ้น-ลงบันได อยู่ในบริเวณที่มีความสงบ เป็นส่วนตัวและมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก


ตัวอย่างห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ

– พื้น ควรปูด้วยวัสดุลดแรงกระแทกและไม่ควรมีพื้นที่ต่างระดับ เพื้อป้องกันการสะดุด และหกล้ม
– เตียงนอน เลือกขนาดให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ปรับระดับความสูงได้ มีราวจับข้างเตียง ฟูกที่นอนไม่แข็ง หรือนิ่มเกินไป พร้อมพื้นที่บริเวณข้างเตียง 90-100 เซนติเมตร เพื่อให้สามารถเข้าไปดูแลได้และรองรับการใช้งานรถเข็น
– ภายในห้องนอน ติดตั้งราวจับบริเวณที่มีการลุกนั่ง มีไฟส่องสว่างอัจฉริยะที่สามารถเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ เพื่อนำทางเดินจากเตียงนอนไปกลับห้องน้ำในยามค่ำคืน
– เฟอร์นิเจอร์ แนะนำให้มีโต๊ะข้างเตียงที่หยิบของได้สะดวก ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของควรมีระดับความสูงที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
– ประตู ไม่ควรมีธรณีประตูเพื่อป้องกันการสะดุด เลือกแบบบานเลื่อนเปิด-ปิด ที่มีระบบรางแขวนด้านบนตัวล็อก
ใช้งานง่าย ใช้แรงน้อย


2. ห้องน้ำ

อีกหนึ่งห้องที่ควรให้ความสำคัญในบ้านผู้สูงอายุคือ ห้องน้ำเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการลื่นล้มสูง นอกจากการคำนึงถึงขนาดของห้องน้ำที่ควรกว้างอย่างน้อย 200 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้รถเข็นแล้ว ยังแนะนำให้มีการแบ่งพื้นที่โซนห้องน้ำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ราวจับรุ่นต่าง ๆ สำหรับติดตั้งในห้องน้ำของบ้านผู้สุงอายุ
ราวจับรุ่นต่าง ๆ สำหรับติดตั้งในห้องน้ำ
– พื้นที่โซนแห้ง เลือกใช้อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังที่สามารถรองรับน้ำหนักการเท้าแขนของผู้สูงอายุ หรือเลือกอ่างแบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์ เพื่อให้มีพื้นที่ใต้อ่างสะดวกต่อการใช้งานของรถเข็น ก๊อกน้ำควรเป็นแบบก้านโยก หรือก้านปัด ส่วนโถสุขภัณฑ์ควรเป็นแบบนั่งราบ มีระดับความสูงให้เหมาะสม ให้ลุกนั่งง่าย เท้าไม่ลอย และติดตั้งราวจับบริเวณข้างโถสุขภัณฑ์
– พื้นที่โซนเปียก ที่นั่งอาบน้ำที่มีความแข็งแรง ขนาดและความสูงเหมาะกับผู้สูงอายุ โดยฝักบัวควรติดตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของที่นั่ง ก้านฝักบัวสามารถปรับระดับความสูงได้ เลือกใช้วาล์วเปิด-ปิดน้ำ ที่สามารถคุมอุณหภูมิได้ ติดตั้งราวจับบริเวณพื้นที่อาบน้ำ ที่สำคัญควรใช้กระเบื้องปูพื้นที่มีค่าความฝืดตั้งแต่ R10 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการลื่นล้ม รวมไปถึงการติดตั้งราวจับโดยเฉพาะพื้นที่อาบน้ำ


3. พื้นที่ขึ้นลงบันได
หากห้องนอนผู้สูงอายุอยู่ชั้นบน อาจทำให้ปวดเข่าเวลาขึ้น-ลงบันได หรืออาจสะดุดพลัดตกจากบันได ดังนั้นบ้านผู้สูงอายุจึงควรปรับบันไดให้มีความกว้างที่เหมาะสม ลูกตั้งบันไดสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร ลูกนอนกว้างอย่างน้อย 30 เซนติเมตร

จมูกบันไดมีสีแตกต่างจากพื้นผิวของบันไดเพื่อให้สังเกตเห็นความแตกต่างของบันไดชัดเจน ควรมีราวบันไดทั้ง 2 ข้าง ในระยะ 80 เซนติเมตรจากพื้น และมีแสงสว่างให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ติดตั้ง “ลิฟต์บันได” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ



4. ภูมิทัศน์รอบบ้าน
ทางเข้าบ้านและบริเวณสวน พื้นทางเดินควรเรียบ มีที่นั่งสำหรับชมธรรมชาติเป็นระยะ ที่นั่งพักควรมีราวจับ หรือเท้าแขน เพื่อช่วยในการพยุงตัวลุกได้สะดวก
ในกรณีที่มีทางลาดเข้าบ้าน ควรมีความชัน ไม่เกิน 1:12 มีพื้นที่ว่างหน้าทางลาดไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ใช้วัสดุพื้นผิวไม่ลื่น มีขอบกั้นและราวจับตลอดแนวทางลาด สำหรับความกว้างทางเดินควรกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้รถเข็น


นอกจากนี้ หากผู้สูงอายุชอบการทำสวน ควรเลือกการปลูกในกระบะที่ระยะความสูงประมาณ 60-80 เซนติเมตร หรือปลูกต้นไม้แบบสวนแนวตั้ง


ที่ปรึกษาโครงการ: เคล็ดลับปรับพื้นที่ในบ้านให้เหมาะกับการใช้ชีวิต อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://realestatebb.com/