มะเร็งกล่องเสียง พบได้ประมาณร้อยละ 3 ของมะเร็งทั้งหมด พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 10 เท่า และพบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉลี่ยอายุประมาณ 60-70 ปี
สาเหตุ
ยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งชนิดนี้ ได้แก่
การสูบบุหรี่ และจะพบมากขึ้นในผู้ที่ดื่มสุราร่วมด้วย
การดื่มสุราจัด
การติดเชื้อเอชพีวี (human papilloma virus/HPV)
การสัมผัสสารใยหิน นิกเกิล ฝุ่นไม้ สี และสารเคมีบางชนิด (เช่น กรดกำมะถัน)
การระคายเคืองเรื้อรังจากโรคกรดไหลย้อน
ภาวะขาดสารอาหารซึ่งมักพบร่วมกับผู้ที่ดื่มสุราจัด
การมีประวัติมะเร็งกล่องเสียงในครอบครัว
อาการ
มักมีอาการเสียงแหบเรื้อรังติดต่อกันนานเกิน 2-3 สัปดาห์ อาจมีอาการเจ็บคอเรื้อรัง ไอเรื้อรัง ปวดหู รู้สึกเจ็บเวลากลืนหรือกลืนลำบาก หรือสำลักร่วมด้วย
ต่อมาอาจพบมีเลือดออกปนกับเสมหะ ไอเป็นเลือด มีก้อนแข็งที่ข้างคอ น้ำหนักลด หายใจลำบากหรือหายใจมีเสียงดังฮี้ด (stridor)
ภาวะแทรกซ้อน
อาจทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบาก และเกิดภาวะแทรกซ้อนของอวัยวะต่าง ๆ ที่มะเร็งแพร่กระจายไป เช่น ต่อมน้ำเหลืองที่คอ (ก้อนบวมโตที่ข้างคอ) ต่อมไทรอยด์ (คอโต คอพอก) หลอดอาหาร (กลืนลำบาก) หลอดลม (ไอ หายใจลำบาก) ปอด (เจ็บหน้าอก ไอเป็นเลือด หายใจหอบ) เป็นต้น
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย
การตรวจบริเวณคอ อาจพบก้อนแข็งที่ข้างคอ (ซึ่งเป็นต่อมน้ำเหลืองโตจากมะเร็งลุกลามในระยะท้าย ๆ ของโรค) การใช้เครื่องมือส่องตรวจภายในลำคอพบเนื้องอกที่กล่องเสียง
แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยใช้กล้องส่องตรวจกล่องเสียง (laryngoscopy) และตัดชิ้นเนื้อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
หากพบว่าเป็นมะเร็ง ก็จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ (เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า-MRI, การตรวจเพทสแกน-PET scan เป็นต้น) เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด
โรคมะเร็งกล่องเสียง (Laryngeal cancer) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/