ผู้ผลิตสินค้าราคาส่ง ลงประกาศสินค้าอุตสาหกรรม

หมวดหมู่ทั่วไป => ผู้ผลิตสินค้าขายส่ง โพสฟรี ลงประกาศฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 29 มิถุนายน 2025, 12:58:28 น.

หัวข้อ: ตรวจสุขภาพ: มะเร็งกระดูก (Bone Cancer)
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 29 มิถุนายน 2025, 12:58:28 น.
ตรวจสุขภาพ: มะเร็งกระดูก (Bone Cancer) (https://doctorathome.com/symptom-checker)

มะเร็งกระดูกคือภาวะที่เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตผิดปกติในกระดูก สามารถเริ่มต้นที่กระดูกโดยตรง (มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ) หรือแพร่กระจายมาจากมะเร็งส่วนอื่นของร่างกาย (มะเร็งกระดูกทุติยภูมิ หรือมะเร็งแพร่กระจายสู่กระดูก) ซึ่งมะเร็งกระดูกทุติยภูมิจะพบบ่อยกว่ามาก ในที่นี้เราจะเน้นไปที่มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นในกระดูกโดยตรงค่ะ

ประเภทของมะเร็งกระดูกปฐมภูมิที่พบบ่อย
มะเร็งกระดูกปฐมภูมิมีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์ที่กลายเป็นมะเร็ง โดยชนิดที่พบบ่อยได้แก่:

โอสทีโอซาร์โคมา (Osteosarcoma):

เป็นมะเร็งกระดูกที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น (ช่วงอายุ 10-20 ปี)

เซลล์มะเร็งสร้างเนื้อกระดูกที่ผิดปกติ

มักพบที่กระดูกยาว เช่น บริเวณรอบๆ หัวเข่า (กระดูกต้นขา กระดูกหน้าแข้ง) หรือกระดูกต้นแขน


คอนโดรซาร์โคมา (Chondrosarcoma):

เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์กระดูกอ่อน

พบบ่อยในผู้ใหญ่ช่วงอายุ 40-70 ปี

มักพบที่กระดูกเชิงกราน กระดูกต้นขา กระดูกซี่โครง และกระดูกต้นแขน


มักเติบโตช้ากว่า Osteosarcoma

ยูอิงซาร์โคมา (Ewing Sarcoma):

เป็นมะเร็งที่พบน้อยกว่าสองชนิดแรก พบบ่อยในเด็กและวัยรุ่น (ช่วงอายุ 10-20 ปี)

เกิดจากเซลล์ต้นกำเนิดที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่

มักพบที่กระดูกเชิงกราน กระดูกต้นขา กระดูกหน้าแข้ง กระดูกซี่โครง และกระดูกต้นแขน

มะเร็งกระดูกชนิดอื่นๆ ที่พบน้อย: เช่น Fibrosarcoma, Malignant Fibrous Histiocytoma (MFH) of bone, Chordoma, Adamantinoma

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งกระดูกปฐมภูมิยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยบางอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงได้:

ปัจจัยทางพันธุกรรม: บางภาวะทางพันธุกรรม เช่น Retinoblastoma หรือ Li-Fraumeni syndrome อาจเพิ่มความเสี่ยง

การรักษามะเร็งครั้งก่อน: ผู้ที่เคยได้รับการฉายรังสี (Radiation Therapy) ในปริมาณสูง หรือเคยได้รับยาเคมีบำบัดบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระดูกในภายหลัง

โรคทางกระดูกบางชนิด: เช่น Paget's disease of bone (ในผู้สูงอายุ) หรือ Osteochondroma (เนื้องอกกระดูกอ่อนและกระดูกที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ในบางกรณี)

อาการของมะเร็งกระดูก
อาการของมะเร็งกระดูกมักจะค่อยๆ แสดงออกและแย่ลงเรื่อยๆ อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ:

อาการปวดกระดูก:

เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดและมักเป็นอาการแรก

อาการปวดอาจเริ่มจากการปวดเป็นๆ หายๆ หรือปวดเฉพาะเวลากลางคืน และจะค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

อาการปวดอาจแย่ลงเมื่อทำกิจกรรม หรือเมื่อลงน้ำหนักที่กระดูกส่วนนั้น

อาจปวดต่อเนื่องแม้จะพักผ่อนแล้วก็ตาม

อาการบวม หรือมีก้อน:

อาจคลำพบก้อนเนื้อนูนขึ้นมาบริเวณที่ปวด โดยเฉพาะบริเวณใกล้ข้อต่อ

ผิวหนังเหนือบริเวณนั้นอาจอุ่นขึ้น

กระดูกหักง่าย:

กระดูกที่อ่อนแอจากมะเร็งอาจหักได้ง่าย แม้ได้รับการกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย (Pathological Fracture)

อาการอื่นๆ (พบน้อยกว่า):

น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

อ่อนเพลีย

ไข้ (โดยเฉพาะใน Ewing Sarcoma)

ข้อควรระวัง: อาการเหล่านี้คล้ายกับอาการของโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่มะเร็งกระดูก เช่น การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือการติดเชื้อ ดังนั้นหากมีอาการต่อเนื่อง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยมะเร็งกระดูกโดยอาศัยหลายวิธีร่วมกัน:

การซักประวัติและตรวจร่างกาย: แพทย์จะสอบถามอาการ ประวัติสุขภาพ และตรวจร่างกายบริเวณที่ปวดหรือมีก้อน

การตรวจทางภาพรังสี (Imaging Tests):

X-ray: เป็นการตรวจเบื้องต้นที่สามารถมองเห็นความผิดปกติของกระดูกได้

MRI (Magnetic Resonance Imaging): ให้ภาพรายละเอียดของเนื้อเยื่ออ่อนและขอบเขตของเนื้องอกได้ดีที่สุด

CT Scan (Computed Tomography): ช่วยประเมินการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังปอดหรืออวัยวะอื่น

Bone Scan: ช่วยตรวจหาการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังกระดูกส่วนอื่นๆ

PET Scan (Positron Emission Tomography): ช่วยประเมินการแพร่กระจายของมะเร็งทั่วร่างกาย

การตรวจเลือด: เพื่อดูค่าการทำงานของร่างกาย และค่าเอนไซม์บางชนิดที่อาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งกระดูก (เช่น Alkaline Phosphatase)

การตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy): เป็นการวินิจฉัยที่แน่นอนที่สุด แพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากกระดูกที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งไปตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อยืนยันชนิดของมะเร็งและความรุนแรง


การรักษา
แนวทางการรักษามะเร็งกระดูกขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค ตำแหน่ง ขนาดของเนื้องอก อายุและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยทั่วไปจะมีการรักษาหลักๆ ดังนี้:

การผ่าตัด (Surgery):

เป็นการรักษาหลักที่สำคัญที่สุดในมะเร็งกระดูกปฐมภูมิ มีเป้าหมายในการ กำจัดเซลล์มะเร็งออกให้หมด พร้อมกับเนื้อเยื่อรอบๆ ที่อาจมีเซลล์มะเร็งปะปนอยู่ (Wide Excision)

Limb-sparing surgery (การผ่าตัดรักษาแขนขา): เป็นวิธีที่นิยมในปัจจุบัน โดยจะผ่าตัดเอาเฉพาะส่วนของกระดูกที่เป็นมะเร็งออก แล้วใส่กระดูกเทียม หรือกระดูกจริงที่ผ่านการฆ่าเชื้อมะเร็งแล้วกลับเข้าไปแทนที่ เพื่อรักษาสภาพแขนขาของผู้ป่วยไว้ ไม่ต้องตัดแขนขา

Amputation (การตัดแขนขา): ในบางกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดแบบ Limb-sparing ได้ หรือมะเร็งรุนแรงมาก อาจจำเป็นต้องตัดแขนขา

ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy):

มักใช้ร่วมกับการผ่าตัด

ก่อนการผ่าตัด (Neoadjuvant Chemotherapy): เพื่อทำให้เนื้องอกยุบตัวลง ลดขนาดลง ทำให้ผ่าตัดได้ง่ายขึ้น และลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

หลังการผ่าตัด (Adjuvant Chemotherapy): เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่และลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำ

การฉายรังสี (Radiation Therapy):

ใช้รังสีพลังงานสูงในการทำลายเซลล์มะเร็ง

อาจใช้ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดออกได้ทั้งหมด หรือใช้ร่วมกับการผ่าตัดและเคมีบำบัด

มีบทบาทสำคัญใน Ewing Sarcoma หรือในกรณีที่มะเร็งแพร่กระจาย

การบำบัดแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) และภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy):

เป็นการรักษาที่ใหม่กว่า และอาจใช้ในบางกรณีที่มะเร็งไม่ตอบสนองต่อการรักษามาตรฐาน หรือมีการกลายพันธุ์ที่จำเพาะเจาะจง

การพยากรณ์โรค
การพยากรณ์โรคของมะเร็งกระดูกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค (มีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายหรือไม่) ขนาดของเนื้องอก การตอบสนองต่อการรักษา และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย หากตรวจพบเร็วและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โอกาสในการหายขาดก็มีสูงขึ้นค่ะ

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่น่าสงสัย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดและรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุดค่ะ