ผู้เขียน หัวข้อ: กระชายพลัส: เลือกอาหารเสริมโพรไบโอติกอย่างไร ให้คุ้มค่า  (อ่าน 94 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 597
  • ผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม โพสฟรี
    • ดูรายละเอียด
จุลินทรีย์ดีโพรไบโอติกว่าเป็นฮีโร่ตัวน้อยที่มีบทบาทมากมายต่อสุขภาพของเรา ทั้งคอยต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยในระบบประสาทและสมอง จนถึงช่วยให้สุขภาพโดยรวมของเราดีขึ้น ดีขนาดที่หลาย ๆ คนคงอยากหาสรรพัดวิธีมาเพิ่มกองทัพจุลินทรีย์ดีในร่างกายของตัวเอง แต่จะให้เลือกรับประทานอาหารหลักทีมีจุลินทรีย์ดี หรือใยอาหารไปเพิ่มจุลินทรีย์ดีที่มีอยู่แล้วในร่างกาย ก็อาจจะทำได้ไม่สม่ำเสมอเต็มที่ จะหันมาเลือกอาหารเสริมโพรไบโอติกก็มีมากมายหลายยี่ห้อจนเลือกไม่ถูก ในบทความนี้เรามีวิธีเลือกอาหารเสริมโพรไบโอติกอย่างไรให้คุ้มค่ามาฝากกันครับ


1. มีจุลินทรีย์ดีที่มีชีวิตและหลากหลายสายพันธุ์

เพราะจุลินทรีย์ดีมีหลายชนิดซึ่งแต่จะชนิดจะชอบอยู่ในแต่ละส่วนของร่างกายและมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปเช่น

-    Lactobacillus acidophilus เป็นจุลินทรีย์ดีที่ผลิตกรดแลคติก ขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้ช่วยลดการติดเชื้อ และช่วยปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานเป็นปกติ
-    Lactobacillus rhamnosus ช่วยควบคุมการส่งผ่านของสารสื่อประสาทในลำไส้ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้า
-    Bifidobacterium brevis ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ในลำไส้ และช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
-    Bifidobacterium lactis ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ทำให้ร่างกายแข็งแรง


2. มีอาหารของจุลินทรีย์ดี

ขึ้นชื่อว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง กองทัพจุลินทรีย์ดีก็เช่นกัน ในเมื่อเราส่งพวกเขาเข้าไปก็ต้องส่งเสบียงตามเข้าไปด้วย เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าไปเจริญเติบโตและทำหน้าที่ได้ทันทีที่ไปถึงลำไส้ของเรา ไม่ต้องไปแย่งอาหารกับเหล่าจุลินทรีย์ที่มีอยู่เดิมในร่างกายของเรา โดยอาหารชั้นดีของจุลินทรีย์เหล่านี้ คือใยอาหารกลุ่มพรีไบโอติก (Prebiotic) โดยเฉพาะ ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructo-oligosaccharide : FOS)


3. อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ทึบแสง ป้องกันความชื้น และแสงแดด

จุลินทรีย์ดีเหล่านี้แม้ว่า จะมีประโยชน์มากมาย ทำหน้าที่ได้หลากหลายอย่างแข็งขันในร่างกายของเรา แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ชีวิตที่อ่อนแอมาก สามารถตายได้ง่ายเมื่ออยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม โดยจุลินทรีย์เหล่านี้จะกลัวความชื้น ความร้อน อากาศ และแสงแดด ดังนั้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติกที่คุณเลือกรับประทานควรอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท เช่น อลูมิเนียมฟอยล์


4. มีเทคโนโลยีการผลิตที่ดี ที่สามารถป้องกันโพรไบโอติก จากสภาวะกรดที่รุนแรงในกระเพาะอาหารได้

เมื่อเรารับประทานจุลินทรีย์ดีเหล่านี้เข้าไป อุปสรรคชิ้นใหญ่ที่จุลินทรีย์ดีเหล่านี้ต้องเผชิญคือ สภาวะความเป็นกรดที่รุนแรงที่ร่างกายของเราใช้ในการย่อยอาหาร หากไม่มีเกราะป้องกันที่แข็งแรงจุลินทรีย์เหล่านั้นส่วนใหญ่จะตายในกระเพาะอาหารและแทบจะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ กับร่างกายของเรา

ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นเทคโนโลยีหุ้มเกราะจุลินทรีย์ที่เรียกว่า ไมโครเอนแคปซูเลชัน(Microencapsulation) ที่จะนำเอาจุลินทรีย์ดีเข้าไปอยู่ในแคปซูลใยอาหาร FOS ซึ่งใยอาหารเหล่านี้จะไม่ถูกย่อยในกระเพาะ แต่ถูกส่งผ่านไปถึงลำไส้ใหญ่ พอไปถึงจุลินทรีย์ดีที่อยู่ในลำไส้จะกินแคปซูล FOS เป็นอาหารทำให้จุลินทรีย์ดีที่อยู่ในแคปซูลจึงออกมาเจริญเติบโตได้

ดังนั้นหากผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกที่คุณเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตนี้ จะมั่นใจได้มากขึ้นว่าจุลินทรีย์ที่รับประทานเข้าไปจะไม่ตายหมดระหว่าทาง และเข้าไปสร้างประโยชน์ต่างๆในลำไส้ของเราได้ครับ


5. บริษัทผู้ผลิตน่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรอง

โดยเฉพาะการได้รับการรับรองจากองค์กรกลางที่น่าเชื่อถือ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นได้รับการรับรองจาก

-    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
-    Food and Drug Administration ( FDA ) จากประเทศที่น่าเชื่อถือ

รวมถึงในปัจจุบันมีสารอาหารเกรดยา ที่เรียกว่า Nutraceutical บางผลิตภัณฑ์สามารถเข้าไปอยู่ในตำราอ้างอิงทางการแพทย์ เช่น Physicians' Desk Reference (PDR) จะยิ่งมีความน่าเชื่อถือขึ้นไปอีกครับ

หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติกอยู่ อย่าลืมใช้เวลาสักนิด ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ตามหลักเกณ์คร่าว ๆ ตามนี้ เพื่อให้รับประทานได้อย่างสบายใจ คุ้มค่า และได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่นะครับ




กระชายพลัส: เลือกอาหารเสริมโพรไบโอติกอย่างไร ให้คุ้มค่า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/